Tap Remover Plus แก้ปัญหาดอกต๊าปหักคาชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว
July 13, 2021Rexroth ErgoSpin – เครื่องขันแน่นแบบมือถือ ควบคุมแรงขันแน่นได้แม่นยำสูง สร้างความมั่นใจในการใช้งาน
August 10, 2021การเลือกดอกต๊าปที่เหมาะสม ดอกต๊าป (Tap) เป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่ตัดเฉือนหรือรีดเกลียวที่รูเจาะ ชิ้นส่วนที่มีรูเกลียวจะถูกนำไปประกอบเข้าด้วยกันกับชิ้นส่วนที่มีสลักเกลียว (Bolt) หรือเกลียวนอก การทำรูเกลียวเริ่มจากการเจาะรูที่มีขนาดเล็กกว่าความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางนอก (Outer diameter) ของขนาดเกลียวที่ต้องการ จากนั้นใช้ดอกต๊าปในการขึ้นรูปเกลียว เราจะเรียกรูที่ผ่านการทำเกลียวนี้ว่า “เกลียวใน” การต๊าปเกลียวสามารถทำได้ทั้งแบบ Manual, แบบกึ่ง Manual และแบบอัตโนมัติ
ดอกต๊าปมีหลายประเภท แต่ละประเภทจะเหมาะกับการใช้งานและวัสดุที่แตกต่างกันไป การเข้าใจดอกต๊าปแต่ละประเภท จะทำให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม ได้ขนาดรูเกลียวที่ได้มาตรฐาน ใช้เวลาในการทำงานสั้น ได้ต้นทุนในการทำเกลียวต่ำที่สุด และดอกต๊าปมีอายุการใช้งานยาวนาน
ดอกต๊าปที่ใช้งานกันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้ 5 ประเภท ดังนี้
1. ดอกต๊าปร่องตรง (Straight Flute Tap)
ดอกต๊าปร่องตรง สามารถทำได้ทั้งเกลียวแบบรูตันและแบบรูทะลุ เหมาะกับวัสดุชิ้นงานเหล็กหล่อหรือวัสดุที่มีเศษสั้น แต่มีข้อจำกัดคือ กรณีทำเกลียวแบบรูตัน เศษจากการตัดจะอยู่ภายในรูเกลียวไม่สามารถระบายออกสู่ภายนอกได้ ในระหว่างการตัดเกลียวจึงต้องคอยเป่าไล่เศษวัสดุออกภายนอก มิฉะนั้นดอกต๊าปอาจจะหักคาติดอยู่กับชิ้นงานในขณะทำเกลียวได้
2. ดอกต๊าปร่องเลื้อย (Spiral Tap)
ดอกต๊าปร่องเลื้อย เหมาะสำหรับการทำเกลียวแบบรูตัน เนื่องจากมีร่องเลื้อยทำหน้าที่ในการระบายเศษ โดยในขณะทำเกลียวเศษของวัสดุจะถูกดันกลับออกมาตามร่องและย้อนขึ้นมาทางปากรู ดอกต๊าปชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานกับวัสดุกลุ่มเหล็กเหนียวหรือวัสดุที่มีเศษยาว
3. ดอกต๊าปปลายร่องเฉียง (Spiral Point Tap)
ดอกต๊าปปลายร่องเฉียง เหมาะกับการทำเกลียวแบบรูทะลุหรืองานที่ต้องการความเร็วในการต๊าปสูงๆ จะมีลักษณะคล้ายกับดอกต๊าปแบบร่องตรง แต่มีความพิเศษตรงที่บริเวณปลายของดอกจะมีร่องที่ช่วยในการดันเศษวัสดุไปด้านหน้าและไหลออกสู่ภายนอกที่ด้านล่างของรูเจาะ ทำให้เศษไม่ติดอยู่ในรูที่ทำการต๊าป
4. ดอกต๊าปมือ (Hand Tap)
ดอกต๊าปมือ เป็นดอกต๊าปพื้นฐานที่นิยมใช้งานกัน สำหรับการทำเกลียวแบบ Manual หรือการต๊าปเกลียวด้วยมือ ดอกต๊าปชนิดนี้จะมี 3 ดอก โดยมีการทำงานดังนี้
- ดอกแรกตัวเรียว (Taper Tap) เป็นตัวทำเกลียวตัวแรก โดยส่วนปลายเกลียวจะมีความเรียว (Chamfer length) อยู่ประมาณ 6-7 ฟัน ก่อนที่ฟันเกลียวจะเต็มรูปร่าง
- ดอกตาม (Plug Tap) เป็นดอกต๊าปตัวที่สอง เพื่อสร้างเกลียวให้มีขนาดที่ใกล้เคียงกับที่ต้องการ ดอกตามตัวนี้สามารถใช้แทนเกลียวดอกแรกได้เลยหากวัสดุที่ต้องการทำเกลียวนั้นไม่แข็งมากเกินไป ปลายเกลียวมีความเรียว (Chamfer length) อยู่ที่ 3-4 ฟัน
- ดอกสุดท้าย (Bottoming Tap) ดอกต๊าปเกลียวตัวนี้ส่วนของเกลียวแทบจะไม่มีส่วนที่เรียวเลย จึงใช้เป็นตัวสุดท้ายเพื่อทำเกลียวให้สมบูรณ์
5. ดอกต๊าปรีดเกลียว (Forming Tap)
ดอกต๊าปรีดเกลียว จะสร้างเกลียวด้วยการรีดหรืออัดขึ้นรูปวัสดุภายในรู ซึ่งจะแตกต่างจากดอกต๊าปชนิดอื่นๆที่ขึ้นรูปด้วยการตัดเฉือน ทำให้การทำเกลียวด้วยดอกต๊าปนี้ไม่มีเศษเกิดขึ้นเลย เนื่องจากเศษถูกอัดเข้าไปในเนื้อเกลียว นอกจากข้อดีในเรื่องที่ไม่มีเศษแล้ว ยังทำให้เกลียวมีความแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ดอกต๊าปรีดเกลียวเหมาะกับการทำเกลียวในวัสดุประเภทที่ไม่แข็งมาก เช่น เหล็กคาร์บอนต่ำ หรืออลูมิเนียม
นอกจากการเลือกประเภทของดอกต๊าปให้เหมาะสมกับลักษณะงานแล้ว ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือการเลือกใช้ดอกต๊าปที่มีคุณภาพอย่าง ดอกต๊าป TANOI จากประเทศญี่ปุ่น ที่ผู้ผลิตมีความเชี่ยวชาญในการผลิตเกลียวโดยเฉพาะ ด้วยการสั่งสมประสบการณ์เกือบร้อยปี และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างการวิจัยและการผลิต จึงทำให้ TANOI สามารถช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนากระบวนการทำเกลียวของผู้ใช้งานได้อย่างดีที่สุด
บริษัท แฟ็คทอรี่ แม๊กซ์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ TANOI อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องมือตัดเฉือน รวมถึงโซลูชั่นการทำงานที่หลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์การทำงานในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับโลหะ ท่านที่มีความสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อมาได้ที่ 02 333 8888 พวกเราทีมวิศวกรฝ่ายขายและทีมงานแฟ็กทอรี่ แม๊กซ์ ยินดีให้คำแนะนำครับ